วัน วันของการฝึกงาน ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ขอนแก่น เขต 1

และแล้ว วันที่ต้องฝึกงานก้มาถึง ที่ที่ไปฝึกงานนั้น ก็คือ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 จังหวัดขอนแก่น ( NBT) นั้นเอง ฉันเองก็รู้สึกตื่นเต้นนะ ที่จะได้ไปฝึกงาน ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ วัฒนธรรมใหม่ ในที่ฝึกงาน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในระยะเวลาที่ทำงานการฝึกงาน แต่ฉันจะทำมันให้ดัที่สุด สู้ๆๆ


วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันที่ 16 มิย. 53

เมื่อวานที่บอกไป วันนี้จะได้ไปทำข่าวตั้งแต่ 2 โมงเช้า แต่ก็ได้ไปประมาณ เกือบสามโมง วันนี้ไปทำข่าวที่เขื่อนอุบลรัตน์ ไปทำข่าวเกือบกับภัยแล้ง น้ำในเขื่อนน้อยมากเลยแหละ พี่ปิ๊กก็พาเดินดู และก็เก็บภาพบรรยากาศของเขื่อนไว้ และเราก็รอคุณดิศธร วัชโรทัย ท่านรองเลขาธิการพระราชวังมาประชุม กว่าท่านจะมาก็นานมาก เพราะท่านมีภาระกิจมากมาย กว่าจะเดินทางมาได้ ท่านเดินทางมาด้วยฮอ พอท่านได้เดินทางมาถึง ฉันกับนุชก็ได้เข้าร่วมการประชุมอยู่ครู่นึ่ง ก็ออกมา เพราะพี่ปิ๊กเดินออกมา เลยตามออกมา อิอิ และเราก็อยู่ที่นั้นถึงเที่ยง ถึงได้ออกมาจากเขื่อน และตอนเดินทางกลับมา ก็มีพี่นักข่าวจากช่อง 5 มาด้วย พี่เขาชื่อไร จำไม่ได้แระ และก็ได้คุยกับพี่เขา พอสมควร (สถานีช่อง 5 ไม่รับเด็กฝึกงานนะ) และได้แวะส่งพี่เขาที่สถานีช่อง 5 และเดินทางไปทำข่าวต่อ ที่สนามบินฝนหลวง เรื่องที่จะทำฝนเทียม เพราะช่วงนี้แห้งแล้งมาก เลยต้องทำฝนเทียม ก็ได้สัมภาษณ์ นายวราวุธ ขันติยานันท์ ผอ.สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ตอนช่วงที่สัมภาษณ์พี่ข่าวช่องไหนไม่รู้เป็นคนสัมภาษณ์ ฉันก็อาศัยจดบันทึกสิ่งสำคัญๆเอาไว้ จากนั้นพอเสร็จงาน ก็เดินทางกลับมายังสำนักงาน มาถึงก็ประมาณสามโมงกว่าๆแล้ว และมาเขียนข่าว แต่ฉันไม่ได้เขียนหรอ เพราะนุชอาสาเขียนเอง แต่ก็ช่วยๆ กันคิด และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน พอดี นี่แระ วันวันของวันนี้…..



วันที่ 15 มิย. 53

วัน วันของวันนี้หรอ.. อิอิ ได้ออกไปทำข่าวกับพี่ปิ๊กด้วยแระ มีนุชไปด้วย ไปทำข่าวฝนหลวง ได้เห็นเครื่องบินด้วยแระ เขาเอาไว้ใช้ทำฝนเทียม และข่าวที่สองก็ไปทำข่าวที่โรงจำนำ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอล เพื่อจะมีคนมาจำอะไรไง อิอิ
และแล้วข่าวที่ทำทั้งสองที่ เขาก็ให้มาทำวันใหม่ ที่ท่าอากาศยาน เข้าบอกให้ไปทำข่าวใหม่คือวันพรุ่งนี้ และโรงจำนำเขาให้ไปทำข่าวอาทิตย์หน้า พอกลับมาก็ไมได้ทำรัย เพราะข่าวที่ไปทำ ก็ได้เขียนแค่ข่าวทำฝนเทียบ ทางนั้น (กทม) เขาคงรีบเอาข่าว พี่ปิ๊กเลยเขียนเอาเอง แต่ฉันก็ให้กำลังใจอยู่ข้างๆๆนะ และวันนี้ทั้งวันก็ทำแค่นี้แระ ไม่มีอะไรมากมาย เพราะงานไม่มี งานน้อย งั้นขอตัวไปนอนก่อนนะ อิอิ เพราะพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้า ไปทำข่าวฝนหลวง บาย

วันที่ 14 มิย. 53

จ๊ะเอ๋….
วันนี้ไม่มีใครมาทำงานเลย พี่ทิพก็ลา พี่นางก็พาหมอไปหาหมอ เพราะฉะนั้น ก็มีแต่พี่ใหม่ อยู่ พี่นางให้ฉันเฝ้าห้องทำงาน อดไปทำข่าวเลย ฉันก็อยู่ห้องกับน้องแบงค์ (น้องฝึกงานมาจากอาชีวะ) วันนี้ห้องทำงานเงียบมาก เพื่อนอีกสามคน ออกไปทำข่าว ฉันกับน้องแบงค์อยู่เฝ้าห้องตามคำสั่งของพี่นาง ให้รับโทรศัพท์ พอบ่าย เพื่อนก็กลับมาจากไปทำข่าว พี่นางก็กลับมา วันนี้มีผู้ใหญ่มาเยี่ยมห้องทำงานด้วย (สงสัยมาตรวจดูหลังจากไฟไหม้แล้ว ทำงานกันยังไง) พอตอนใกล้จะเลิกงาน ฉันเลยถามพี่นางว่า วันนี้วันจันทร์พี่นางไม่ให้ข่าวไปสรุปหรอ พี่นางนึกขึ้นได้ เลยมอบงานให้มาสรุปเป็นการบ้าน และพรุ่งนี้ก็อัพลง IOC และพี่นางยังบอกอีกว่า พรุ่งนี้พี่นางจะไม่มาตอนเช้า แต่ตอนบ่ายจะมาอยู่ พี่นางเลยให้งานไว้รอเลย อิอิ
วันวันของวันนี้ก็ไม่มีรัยมากหรอก งั้นขอตัวไปทำงานก่อนนะ บะบายจ้า

วันที่ 11 มิย. 53

สวัสดีเพื่อนๆ
วันนี้วันศุกร์แล้ว เย้ๆๆ วันนี้จะได้กลับบ้าน
วันนี้ก็ไม่มีรัยให้ทำตามเคย ตอนเช้าของทุกวัน พี่นางจะให้ อัพข่าวส่ง IOC พี่นางหาหัวข้อข่าวให้มาอัพ ฉันและเพื่อนก็แบ่งกันอัพ มันจะได้เสร็จเร็วๆ ฉันก็เอาหัวข้อมาอัพ กับคอมอีกเครื่อง ฉันกับน้องแบงค์ช่วยกันอัพข่าว (น้องแบงค์เป็นน้องฝึกงานมาจากอาชีวะขอนแก่น) วันนี้เราใส่เสื้อช็อบกัน วันนี้ก็ไม่ได้ทำไร มีถ่ายเอกสารเล็กน้อย (ชอบมากเลยถ่ายเอกสาร) ตอนบ่ายก็ไม่ได้ทำรัย ฉันกับน้องแบงค์ช่วยกันเกะเสียง จากเทปบันทึกการทำข่าวย้อนหลัง ทั้งนั่งฟัง นั่งหัวเราะ สนุกเชียว เพราะเขาพูดอีสาน ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะพูดอีสานไม่เหมือนถิ่นเรา ก็ฟังกันหลายรอบทีเดียว พอเสร็จแล้ว ก็เลิกงานพอดี อิอิ จะได้กลับบ้านแล้ว ดีใจ กลับบ้านก่อนนะเพื่อนๆ อิอิ
อิจฉาเค้ามั้ย ^__^

วันที่ 10 มิย. 53

เฮ้ย วันนี้เหนื่อยจัง……ตอนนี้ก็ประมาณ อีก 3 นาที สี่ทุ่ม วันนี้กลับมาถึงห้องประมาณ สองทุ่มกว่าๆ อยากรู้ป่าว ว่าฉันไปทำอะไรมา
วันนี้ตอนเช้าฉันไปทำข่าว กับพี่อู๋ พี่อ้อย ไปทำข่าว เรื่อง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่โรงแรมพูลแมนขอนแก่น (โรงแรมใหญ่มาก ขอบอก ) พี่ที่โรงแรม เขาแจกกระเป๋าให้กับคนที่เข้าประชุมด้วยแระ พี่อู๋ลงชื่อ และเขาก็ให้กระเป๋า ภายในกระเป๋ามีเอกสาร เกี่ยวกับโครงการต่างๆ พี่อู๋ ไม่เอา เพราะเอาให้ฉัน วันนี้ได้กระเป๋าอีกแล้ว ฮ่าๆๆ พอกลับมา ฉันก็เขียนข่าว ให้พี่อ้อย ตอนแรก ก็นึกอยู่ว่าจะเริ่มยังไง เพราะไม่มีหมายข่าวเลย พี่อ้อยแกก็ไม่แนะนะอะไรเลยด้วย และแล้วพี่อ้อย ก็ไปกินข้าว ฉันก็นั่งคิด เลยดูในเอกสารที่อยู่ในกระเป๋า มันจะมีหนังสือสรุปโครงการ และมีคู่มือ การทำโครงการ ฉันเลยเอาข้อมูลจากหนังสือมาเขียนข่าว และแล้วพอบ่ายๆ พี่อ้อยมา ฉันเลย เอาข่าวไปให้พี่อ้อยตรวจ ก็ได้กลับมาแก้ ใหม่ เพราะ มันต้องเพิ่มอะไรอีกหน่อย พี่อ้อยก็เอาข่าวจากใบข่าว มาเขียนเป็นข่าว หนังสือข่าว อยู่กับพี่อ้อยนั้นเอง (ถึงว่า ทำมั้ยไม่เห็น) อิอิ แก้นั้นแก้นี่ เอาประโยคตรงนั้นมาใส่ตรงนี้ ย้ายไปย้ายมา จนสมบูรณ์ และฉันก็เอาไปให้พี่นาง ( บก.) ตรวจ พี่นางก็บอกแนะนำ นั้นนู้นนี้ ดีมาก และแล้ว พอใกล้จะเลิกงาน พี่นาง ก็บอกให้อัพข่าว ส่งไปยังสำนัก กทม.
เผอิญ วันนี้ที่ทำงานมีงานเลี้ยง ตอน 6 โมง พี่ๆที่ทำงานบอกให้ช่วยงานก่อน ก็เลยได้อยู่วย ช่วยเสริฟน้ำ แก่แขกที่มา พอเริ่มดึกประมาณ ทุ่มกว่าๆ ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นชงเหล้าซะงั้น คงจะอร่อยเนาะ ชงก็ไม่เป็น ( มันเป็นงานแบบช่วยตัวเอง หากินเอง แต่ก็ได้เสริฟอยู่ดี เฮ้ย…) และแล้วก็ได้เวลากลับมันดึกแล้วประมาณ สองทุ่มกว่าๆ เลยขอตัวกลับก่อน ป้าพรก็บอกให้กลับ เลยกลับ เลยมาถึงดึกไง เหนื่อยด้วย แก็สนุกอยู่ ได้เจอคนเยอะดี เหนื่อยแระ ดีใจมากพรุ่งนี้จะได้กลับบ้าน คิดถึงบ้าน คิดถึง พ่อ กับแม่ คิดถึงหอที่ มอเก่า ตอนนี้เหนื่อยละ ง่วงนอน ไปแระน๊าๆๆๆๆๆ บะบาย ฝานดีจ้า

วันที่ 9 มิย. 53

ฮ่ะๆๆ วันนี้นะหรอ วันนี้รู้สึกว่าข่าวที่จะเยอะนะ เพราะดูจากตารางข่าวแล้ว พี่ๆเขสาได้ไปทำข่าวกันหลายที่ เมื่อวานพี่น่างบอกว่า ให้นักศึกษาไปได้ทีมข่าวละ 1 คนเท่านั้น ทีมข่าวของเราก็มี พี่นก + พี่ทน พี่อู๋ + พี่อ้อย พี่ปิ๊ก ฉะนั้น ต้องมีนิสิตอยู่ห้องข่าว 2 คน ( ฉัน อุ๊ นุช น้อง และน้องแบงค์ )
วันนี้ตอนเช้างานก็เข้าแล้ว พี่นางบอกให้ไปจดเอาหัวข้อ ข่าว เพื่อจะเอามาอัพลงเว็บข่าว ฉันก็ไปจดเอาหัวข้อข่าวกับพี่นางมา และเอามาแบ่งกับเพื่อนทำช่วยกัน เผอิญ ฉันกับอุ๊นั่งส่งข่าวอยู่ พี่ก็ทยอยกันไปทำข่าว และเพื่อนก็อาสาไปด้วย พี่นกเข้ามาชวนฉันไปทำข่าว แต่ฉันไม่ว่างเพราะส่งข่าวให้พี่นางอยู่ อุ๊ทำเสร็จ อุ๊เลยไปกับพี่นก ฉันเลยได้อยู่คนเดียวในบรรดานิสิตฝึกงาน น้องแบงค์ก็ไปกับน้อง เซงเลย ไม่หรอก มีงานทำอยู่ พี่ฝน ฝ่ายรายการ ให้ไปถ่ายเอกสารให้ พอเสร็จสักครู่ ฝ่ายรายการก็ให้ไปถ่ายเอกสารให้อีก คราวนี้ เอกสารที่จะถ่ายเยอะมาก เป็นปึก พี่เขาบอกว่าไม่รีบเอาหรอก ค่อยๆ ถ่ายไป ( ดีเลยจะได้มีอะไรทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆ ) ถ่ายไปสักพัก กำลังจะถ่ายเสร็จนุชก็มา ดีใจมากที่เพื่อนมา กลัวไม่มีเพื่อนไปกินข่าว และแล้วเพื่อนก็มาจนหมด เพื่อนได้ของมาฝาก จากการออกไปทำข่าวด้วย อิอิ
พอตกบ่ายมีฝนฝ่ายข่าวก็ให้ลงชื่อเอาหมวกกันน็อก (ได้ของฟรีอีกแล้ว) พอตอนเลิกงาน ประมาณ 5 โมงเย็น จะมีตำรวจชั้นสูง มาตรวจ เยี่ยมเนื่องจากเหตุการณ์โดนเผา พี่นกเลยชวนไปสัมภาษณ์ ฉันก็รอ พอท่านมา พี่ปิ๊กก็ถ่ายเก็บภาพที่ท่านเดินตรวจอาคารที่โดนเผา พอท่านจะกลับไปขอสัมภาษณ์ท่านก็ไม่ให้สัมภาษณ์ ท่านบอกว่า สัมภาษณ์มาเยอะแล้ว จะเอาอีกอยู่หรอ อิอิ อดเลย และแล้วภาระกิจวัน วัน ของวันนี้ก็หมดลง อิอิ เจอกันใหม่วันพุ่งนี้นะจ๊ะ

วันที่ 8 มิย. 53

เริ่มทำงานกัน… เช้านี้พอไปถึงที่ทำงาน ก็นั่งรอพี่นางมา เพื่อที่จะส่งงานที่ทำเมื่อวาน เมื่อที่จะให้พี่นางตรวจสอบ พอสักพักพี่ทนเขามา ก็เลยขอแกออกไปทำข่าวด้วย วันนี้ก็ไปกับนุชเหมือนเดิม เลยขอพี่นางออกไปทำข่าว พี่นางก็อนุญาต ฮ่ะๆ ไปทำข่าวอะไร อยากรู้ป่าว……ตอนเช้าสองโมงกว่าๆ ไปทำข่าวที่ โรงแรมแก่นอิงค์ เป็นข่าวการฝึกอบรมการใช้เครื่องวัดแอลกอฮอล์ พี่ทนก็ไปเก็บภาพบรรยากาศภายในงานได้สักพัก ฉันก็เก็บภาพบรรยากาศของการอบรมมาฝาก ก็ไมได้ถ่ายเยอะหรอก แรกๆๆ ก็เกรงๆอยู่ อิอิ และแล้วพักนึ่ง เราก็เดินทางไปทำข่าวอีกที่ ข่าวที่นี้อยู่ที่วัด…… เป็นการเยี่ยวยาชุมชนจากเหตุการณ์ชุมนุม มีการแจกข่าวสารให้ประชาชน มีสอนอาชีพ เช่น ทำกระดาษด้วยริบบิ้น ตัดผม เกษตร จากนั้นพอทำข่าวเสร็จ ก็กลับมายัง
สำนักงาน และพี่นกก็ให้ฉันกับนุชมาเขียนข่าวคนละเรื่อง ฉันได้เรื่องการอบรม การใช้เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ พี่นกก็เป็นคนค่อยแนะนำนะ พี่นกก็มาบอกว่าต้องเขียนยังไง พี่นกก็พูดไปเลยนะ ว่าข่าวนี้จะต้องเขียนแบบนี้ ฉันก็จำคำที่พี่นกบอกมาเขียน แต่ดีหน่อยข่าวของฉัน มันมีเอกสารมาด้วย พี่นกก็บอกให้เขียนข่าวตามที่เอกสารแจกนั้นแระ พี่นกก็ค่อยให้คำปรึกษาอยู่เรื่อยๆ (ขอบคุณมากนะคะพี่นก ^__^)
พอเขียนข่าวเสร็จก็เอาข่าวเขียนไปให้ บก. ตรวจ บก. คนนั้นก็คือ พี่นางนั้นเอง พี่นางตรวจดูแล้ว ก็ได้กลับมาแก้นิดหน่อย ก็ตัดประโยคบางตอนออก และเพิ่มคำนิดหน่อย ก็เป็นอันใช้ได้
นี่แระงานทั้งวันของวันนี้ จากนั้นก็ไม่ได้ทำรัย ออ พี่นางบอกว่า เวลาไปทำข่าว ให้ไปทำข่าวได้ทีมละ 1 คนเท่านั้น ต่อไปฉัน ก็ต้องไปคนเดียว (ต้องแย่งกบพวกเพื่อนๆซะแล้วละ) และแล้วเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึง 17.00 ยังนิ พึ่งจะ สี่โมงกว่าๆเอง พี่ทิพย์พี่นางก็บอกว่าให้กลับได้แล้ว เพราะฝนจะกำลังจะตก พวกเราก็ลา สวัสดีพี่ๆ กลับ
วันนี้ก็ดีนะ เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้ไปทำข่าว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนข่าวเอง ในใบเขียนข่าว ลงชื่อ ฉัน เป็นชื่อ พี่ผู้สื่อข่าวด้วยแระ (ภูมิใจ) วันนี้ก็พอแค่นี้แระนะ พุ่งนี้จะมาเขียนอีกใน วัน วันของการฝึกงาน โชคดีนะเพื่อนๆ ทุกคน





วันที่ 7 มิย. 53

วันนี้ฉันได้ทำอะไรบ้างนะหรอ ทายสิ ….. ก็ออกไปทำข่าวนะสิ วันนี้ไปทำข่าวกับพี่นก พี่ทน เหมือนเดิม วันนี้ไปทำข่าวที่หอประชุม อำเภอมัญจาคีรี อบรม อปพร. (อบรมป้องกันพลเรือน) มีนักข่าวจากช่อง 7, KTV ก็มีการสัมภาษณ์ พตต มนตรี ถึงการจัดอบรมในครั้งนี้ จากนั้นพอทำข่าวเสร็จ ท่านมนตรี ก็ได้ไปเลี้ยงข่าวนักข่าว และฉันเองก็ได้พูดคุยกับพี่นักข่าวช่อง 7 ด้วยนะ เออ พี่เขาบอกว่ารับนิสิตฝึกงานด้วยนะ เดี๋ยวจะเอาไปแนะนำน้องๆ จากนั้นทานข้าวเสร็จก็ได้เดินทางกลับ สำนักงาน
ประมาณบ่ายสองโมง พี่นางก็ได้สอนหาข่าว โพสข่าว เพื่อจะส่งไปยังสำนักอยู่ที่ กทม.และพวกเราชาว เด็กฝึกงานก็เรียนรู้กัน และแล้วพี่นางแกก็มีงานให้ทำ นั้นก็คือ เอาข่าวในเว็บมาแก้ไข และส่งไปยังสำนัก กทม. มันก็ไม่อยากเกินความสามารถนะ อิอิ เพราะก๊อบวาง ( แล้วมาวางลงในหน้ากระดาษที่เขามีไว้ และจัดหน้าให้สวยงาม เท่านั้นแระ) อิอิ ก็เขาทำแบบนี้จริงๆๆนิ
แล้วก็ได้การบ้านมาทำด้วยนะ พี่นางแกให้หัวข้อข่าวมาสรุป ย่อๆ และพุ่งนี้ก็เอาไปโฟสลงบในเว็บของสำนักงาน ของเรา งั้นฉันกลับห้องไปทำงานก่อนนะ บายจ้า…..ปุ๋ย

วันที่ 4 มิย. 53

05.30 น. (กริ้ง กริ้งเสียงนาฬิกา) วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ ฉันตื่นแต่เช้า (สงสัยจะต้องตื่นเช้าทุกวันละมั้ง) วันนี้เป้นวันสุดท้ายที่เพื่อนร่วมฝึกงานต่างสถาบัน นั้นก็คือ พี่บอล และพี่แจ็ค ได้มาฝึกงานเป็นวันสุดท้ายแล้ว (ไม่น่าไปเร็วเลย) มาเริ่มการทำงานกันได้แล้ว ... ^__^ และวันนี้ก็มีตารางการทำข่าว ขึ้นมา 3 งานด้วยกัน มีนก ผู้สื่อข่าว ของเรานั้นเอง ได้เดินเข้ามาในห้อง จากนั้น พี่นกแกก็ถามว่า ใครจะไปทำข่าวกับพี่ ฉันกับนุช พร้อมใจกัน ยกมือ และบอกว่า หนูคะ และแล้วเราสองคนก็ได้ออกไปทำข่าว และมีพี่ทน(ตากล้อง)ไปด้วย เราไปทำข่าวกันที่แรกที่ มหาวิทยาลัยมงกุฎ.... ไปทำข่าวการเปิดนิทรรสการสิ่งแวดล้อม (น่าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู) พวกพี่ๆเขาใจดีนะ เป็นกันเองมากเลย พี่นกก็บอกให้ไปเดินดูภายในงาน เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดงาน ฉันกับนุช ก็เดินดูรอบๆ สิ่งที่สะดุดตาที่สุดนั้นคือ ก๊อกน้ำไร้ท่อ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง และมีเกม รจนา ให้เราเอาเชือกที่ติดอยู่ในวงกล ออกให้ได้ มันมีอยู่สามด่านด้วยกัน ( ทำไม่ได้เลย อิอิ)
จากนนั้น เราได้เดินไปดูพวกสัตว์ดอง และสัตว์แห้ง ดูแมลง ผีเสื้อ หนอน ซึ่งป็นบูชอยู่ใกล้ๆกันนั้นเอง และยังได้โปร์การ์ดมาด้วยนะ เป็นที่ระลึก และต้องมีสะดุดตาอีกนั้นก็คือ การส่องดูนก แรกๆก็แปลกใจนะว่า นกที่ไหนจะมาบินแถวนี้ มันคงจะบินมาให้ส่องหรอก ที่ไหนได้ พอมองไปใกล้ๆ จะเจอนกเติมไปหมด แปลกใจละสิว่านกอะไร นกกระดาษที่ติดอยู่พุ้มไม้ไงละ มีประมาณ 10 ตัวได้ พี่เขาทำมีสาระนะ ฉันได้ไปส่องดูแล้ว เห้นนกเต็มตัวเลยแระ แต่มันจะมีบอกเบอร์นะว่านกตัวที่เราส่องดูนั้นเบอร์อะไร และมันมีลักษณะอย่างไร และเราก็มาชี้อยู่ที่ โปรืการ์ดข้างๆ ถ้าตอบถุกพี่เขาก็จะให้รางวัล เป็นขนม นั้นเอง เด็กๆชอบกันเชียวละ และมีโคมจำลองสถานะการ์ณเรือนจะจกด้วยนะ พี่นกและพี่ทนให้ฉันและนุชลองเข้าไปอยู่ในนั้น ได้ออกวีดีโอด้วย อิอิ
โห ภายในร้อน อับ หายใจไม่ออก แต่นุชบอกว่า หายใจออก ก็อ้วนมั่ง ถึงมีลมเยอะอ่ะ อิอิ
มาที่นี้ก็ไม่ได้ทำรัยหรอก พี่ทนแกก็ถ่ายบรรยากาศงานรอบๆ ไว้เท่านั้นเอง และค่อยไปเขียนข่าว และอัดเสียง ใส่
จากนั้นไม่นาน พี่ๆเขาก็จะพาไปดูปลาสวยงามที่งานปลาสวยงาม พี่เขาก็ไปเก็บภาพบรรยากาศของงานปลาสวยงาม เพื่อจะเอาไปเขียนข่าว แต่ตอนที่ไป ปลาก็ยังไม่เยอะหรอก เพราะเขาพึ่งจะลงของ ก้ได้ดูปลาเพียงบางส่วนเท่านั้น และก็เดินทางกลับไปที่สำนักงาน พี่นกแกก็เขียนข่าวเอง เหมือนเดิม พี่เขาคงยังไม่อยากให้เราเขียนมั่ง เพราะเราต้องเรียนรู้อีกเยอะ ถ้าให้เขียนคิดว่า คงจะเขียนได้นะ แต่เป็นรัย อย่างน้อยก็ได้ออกไปทำข่าวกับพี่ๆเขา
พอถึงเวลาเที่ยง พี่ทิพ และพี่ใหม่ ก็ซื้อกับข้าวกันมาเยอะแยะเลย มาเลี้ยงส่งพี่บอลกับพี่แจ็คไงละ
พอถึงเวลา ประมาณบ่ายๆ เราทั้งสี่คน ก็ได้ไปที่ตึกที่มันไหม้ เพื่อจะไปเก็บของในห้องฝ่ายข่าวที่เหลืออยู่ (ใจหวั่นเลย ไม่อยากเข้าไปเท่ารัย กลัว เพราะครั้งนั้น ก็ไม่เข้าไป ) พี่ทิพ กับพี่นางก็พาไปเก็บเอาของชั้น 1 ไฟไหม้เยอะมาก อยากถ่ายรูปมาให้ดุมากเลย (ไว้วันหลังนะ
จากนนั้นพอประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ เราก็กินแหนมเมืองกันอีกรอบ พี่บก อ๊อด (ปัญญา ขุนน้อย ) เป็นคยซื้อมาเพื่อจะกินเลี้ยงส่ง พี่บอลกับพี่แจ๊ค อีกรอบ อิอิ กินทั้งวันเลยวันนี้ ก่อนที่พี่สองคนจะไป เขาก้ได้สอนการโฟล์ข่าวลงเว็บ และการโหลดข่าวมาปริ้นให้ บก ดีจังเลยเนาะ พี่เขาเก่งนะ พี่บอลเก่งมากเลยแระ น่าเสียดายได้อยู๋ด้วยกันแค่สี่วันเอง ดีใจนะที่ได้รุ้จักพี่ทั้งสอง
และแล้วก็ถึงเวลาเลิกงาน ได้กลับบ้านแล้ว ฉันต้องเดินทางมาสารคาม ฉันและนุชได้ยืนรอรถสองแถวอยู่ ก็มีคนใจดีมา อาสาจะไปส่ง นั้นก็คือ พี่ทิพนั้นเอง พี่เขาใจดีนะ และพี่เขาก็ได้ไปส่งฉันที่ บขส และไปส่งนุชต่อที่บ้านนุชไงละ (หน้าแฟรี่) วัน วัน ของวันนี้ก้มีแค่นี้แระ ติดตาม วัน วัน ของการฝึกงานได้อีกใน วันจันทรืหน้านะจะ

วันที่ 3 มิย. 53

05.30 น.(กริ้ง กริ้ง) วันนี้ฉันและเพื่อนก็ไปเช้าตามเคย (07.30 น.) ไปลงชื่ออยู่หน้าห้อง มองเขาไปในห้อง ยังไม่มีใครมาเลย มีแม่บ้าน วันนี้ฉันและเพื่อนจะได้ออกไปทำข่าวกับพี่ตากล้อง (พี่อู่ พี่ปิ๊ก พี่ทน) ต่างคนต่างไปทำข่าวต่างที่กัน แต่จะมีนักศึกษาฝึกงานไปด้วย พวกเราก็ต่างดีใจ ตื่นต้นที่จะได้ออกไปทำข่าวกับพี่ๆ ข่าวที่ว่ามีตอน 10.30 น.ทุกข่าว ซึ่งวันนี้มีข่าวประมาณสามที่ที่ต้องไป เราก็ตกลง และแบ่งกันว่าใครจะไปก่อน ไปหลัง และแล้ว ข่าวแรก ไปสำรวจรอยต่อน้ำพอง เพื่อนร่วมฝึกงาน (พี่แจ็ค น้องแบงค์) หนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนของเรา ยายอุ๊นั้นเองไปด้วย รุ้ป่าว ว่าไปทำรัยกัน ไปนั่งรถเล่นว่างั้น เพราะไปแล้วไม่เจอที่ทำข่าว (แป๋วๆๆ) และข่าวที่เหลือๆก็อไมได้ไปเพราะไม่มีรถไปทำข่าว เลยไม่ได้ไปทำข่าว ซะงั้น เซงอีกแล้ว ไม่มีรัยทำเลยเรา(ฉันเอง)
พักกลางวัน………………..
ขึ้นมาทำงาน อีกสักแปป ก็มีพี่ฝนซึ่งอยู่ฝ่ายรายการก็หาอะไรมาให้ทำ นั้น คือการแยกกระดาษ ทิ้ง ทำลายส่วนที่เป็นราชการของสำนักงานประชาสัมพันธ์เพื่อความลับจะได้ไปแพร่กระจายออกไป อีกส่วนก็จะเป็นกระดาษที่จะเอาไปขาย นี่ก็เป็นงานอีกอย่างทีได้ทำ และได้สอนพี่แจ็คเล่น hi5 (พี่เขาเล่นไม่เป็น ซะงั้น ) และได้คุยกับน้องแบงค์เกี่ยวกับพวกโปรแกรมต่างๆ น้องเขาเรียนกราฟฟิกมา เรามาแลกเลี่ยนความรู้กันเฉยๆ เวลาผ่านไป ก็เป็นเวลาเลิกงาน 17.00 น. พี่อะไรน๊า จำได้ก็บอกให้กลับ แกบอกว่า กลับได้แล้ว ถ้ารายการออนแอ ได้ หกโมงก็ยังไม่ได้กลับหรอก รอรายการออนแอร์ได้ก่อน … พวกเราก็แยกย้ายกันกลับ นี่ก็เป็นอีกวันของฉัน…


วันที่ 1 มิย. 53

เช้าวันที่ 1 มิย. 53 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ( 05.30 น. กริ้ง กริ้ง) นั้นแระ ฉันตื่นตอนตีห้าครึ่ง และตามด้วยเพื่อน อีกสองคน เสร็จธุระแล้ว เราสามคนก็ออกเดินทางไปยังที่ฝึกงาน และแวะรับเพื่อนอีกคนระหว่างทางไป พอไปถึงที่สำนักประชาสัมพันธ์แล้ว ตอนนั้นเวลา 07.30 เช้ามาก ยังไม่มีใครมา พวกเราก็นั่งรออยู่ใต้มะม่วง หน้าอาคารที่เราจะฝึกงาน รอ รอ รอ จนกระทั้งฉันและเพื่อน ได้ขึ้นไปบนตึกเพื่อจะไปติดต่อกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ ฝ่ายข่าว ที่ฉันจะไปฝึกงาน มีคนบอกให้รอพี่ติ๋วมาก่อน ฉันก็รออีก พี่เขาบอกว่า ที่นี้เขาเข้างานกัน 08.30 น. (ฉันนึกในใจมาสายกันจัง) แต่ไม่เป็นไร ถึงแม้พวกพี่เขาจะมาสาย แต่เราเป็นเด็กมาฝึกงาน เรามาเช้าก่อนพี่เขาก็ได้
ในระหว่างที่รอพี่เขามาทำงาน จะมีโชว์ฝาตั้งอยู่หน้าห้อง ฉันเพื่อนก็นั่งรอกันอยู่หน้าห้อง และและ ก็เริ่มมีคนทยอยมา เราก็ยกมือไหว้พวกพี่เขา เขาก็ถามกันว่า มาจากไหน? (มาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามคะ) พี่ๆทุกคนเขาน่ารักกันหมดเลยนะ เท่าที่ดูๆ จากนั้นพี่ติ๊วมา(มีคนบอก) เราสี่คนก็ได้เข้าไปหาพี่ติ๋วข้างใน ซึ่งพี่ติ๋วจะรับเรื่องเด็กที่มาฝึกงาน จากนั้นก้คุยกันไปเรื่อย ก่อนที่จะแยกไปฝ่ายข่าว จากที่ตัวอาคารของตึกที่โดนเผาไปนั้น ตึกนี้เป็นเพียงตึกเล็กๆ ทุกฝ่าย ก็จะมาอยู่ร่วมกันที่ตึกเล็กนี่
เราสี่คนเข้าไปในห้องของฝ่ายข่าวซึ่งอยู่ข้างห้องทำงานของฝ่ายรายการโทรทัศน์ ก็จะมีโต๊ะๆสีส้ม และเก้าอี้อีก สี่ตัว ตั้งอยู่ ซึ่งมันพอดีกับเราสี่คนเลย (ขำ) เราก็ไหว้สวัสดีพี่ๆในห้องนั้น พี่เขาบอกว่า .. ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ทำนะ น่าจะมาก่อนหน้านี้ จะได้ช่วยกันยกของ (ตอนที่ไฟไหม้) จากที่เกิดเหตุการณไฟไหม้ นั้น ทำให้ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ไม่มีงานเข้า มีแต่ก็น้อย ไม่มีห้องจักรายการ จึงส่งผลให้เกิดการว่างงานของเด็กฝึกงาน ที่นั้นฝ่ายข่าวมีเด็กฝึกงานเก่า 3 คน ซึ่งมาจากบุรีรัมย์ 2 คน (พี่แจ๊ค พี่บอล) ซึ่งเรานับถือให้เขาเป็นพี่ และน้องจากอาชีวะขอนแก่นคนนึ่ง (น้องแบงค์) เหมือนเขาสองคนจะมีหน้าที่ทำ (ในความรู้สึกของฉัน) เราสี่คนก็นั่งเล่นนั่งดูหน้ากันในห้องเล็กๆห้องนั้น เพราะเกิดอาการเบื่อ ที่ไม่มีงานทำ อะไรเลย พี่ๆตากล้องก็ทยอยกันเข้ามา ก็จะถามพี่เขาเสมอว่า มีรัยให้ช่วยทำมั้ยคะ (ออ ไม่มีรับให้ทำหรอก) ..เชื่อมั้ยว่าวันนั้นทั้งวันเราสี่คนไม่ได้ทำรัยเลย เราได้แต่ปรึกษากันที่โต๊ะตัวสีส้มๆตัวนั้นอย่างเบาๆ (นั่งคุยกันเบาๆ) และแล้วเวลา 17.00 ได้เวลาเลิกงาน พี่ๆเขาก็ทยอยกลับ (กลับได้แล้วนะเด็กๆ) เสียงพี่ๆชวนกลับ
วันนี้ทั้งวันฉันก็ไม่ได้อะไรเลย แต่ได้รู้จักสถานที่ ได้รู้จักพี่ที่ทำงาน และได้รู้จักเพื่อนฝึกงานต่าง สถาบัน และได้รู้อีกว่า วันพุ่งนี้ราต้องได้ทำอะไรสักอย่างละน๊า..